
ราคาทองคำวันนี้14พ.ค. 65 ปรับลง 150 บาท รูปพรรณขายออก 30,400 บาท สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาซื้อขาย ครั้งแรกของวัน ปรับลดลง 150 บาท เมื่อเปรียบเทียบ กับราคาปิดวานนี้ โดยราคาทองรูปพรรณ ขยับมาอยู่ที่ บาทละ 30,400 บาท ตามข้อมูลล่าสุด จากเว็บไซต์ ของสมาคมค้าทองคำ เมื่อเวลา 9.26 น.ที่ผ่านมา ทองคำแท่ง มีราคารับซื้อ ในประเทศอยู่ที่บาทละ 29,800 บาท ขายออก 29,900 บาท ตามประกาศครั้งที่ 1 ด้านราคาทองรูปพรรณ รับซื้ออยู่ที่บาทละ 29,258.80 บาท และขายออกที่ราคา 30,400 บาท ทั้งนี้ ในส่วนของราคาทองคำโลก (Gold Spot) อยู่ที่ระดับ 1,813.00 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ทองแท่ง
• รับซื้อ บาทละ 29,800 บาท
• ขายออก บาทละ 29,900 บาท
ทองรูปพรรณ
• รับซื้อ บาทละ 29,258.8 บาท
• ขายออก บาทละ 30,400 บาท
ปัจจัยที่กระทบกับความเคลื่อนไหวของราคาทอง : ราคาทองคำวันนี้14พ.ค.
เป็นเรื่องที่นักลงทุนทองคำ ควรต้องศึกษาและทำความเข้าใจ อย่างถ่องแท้ เพราะแม้ทองคำ จะมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยง ที่จะขาดทุนได้เหมือนกัน หากนักลงทุน ได้ศึกษาและเข้า
ใจปัจจัย ที่ทำให้ราคาทองคำ มีความเคลื่อนไหวแล้ว ก็จะช่วย ให้นักลงทุน สามารถวิเคราะห์ทองคำ และคาดการณ์แนวโน้ม ราคาทองได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถลงทุนได้ อย่างถูกจังหวะ ถูกเวลาและโอกาสนั่นเอง
ราคาทองคำของไทยที่อ้างอิงกันในแต่ละวัน เป็นราคาทองคำที่คณะกรรมการ กำหนดราคาทองสมาคม ผู้ค้าทองคำประกาศ ซึ่งการพิจารณา กำหนดราคาทองคำ ของคณะกรรมการฯ
จะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ราคาทองคำในต่างประเทศ (Gold Spot) ค่าต้นทุนใช้จ่ายเพื่อการนำเข้าหรือส่งออกทองคำ
ระหว่างประเทศ (Premium) รวมถึงพิจารณาปริมาณ Demand (ความต้องการซื้อ) และ Supply (ความต้องการขาย) พร้อมกับการแปลงมูลค่า เป็นเงินบาท และ ออกประกาศ เป็นราคารับซื้อ และ
ราคาขาย ในประเทศในแต่ละวัน
ปัจจัย ที่ส่งผลทำให้ราคาทองขึ้นลงค่อนข้างเด่นชัด
1. นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย
เรื่องเกี่ยวกับ นโยบายการเงิน และ อัตราดอกเบี้ย ธนาคาร มีความสัมพันธ์ แบบผกผัน กับราคาทองคำ ของแต่ละประเทศ กรณีมีการ ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น จะสะท้อนว่าเศรษฐกิจ เริ่มดี ความเชื่อ
มั่นมีมากขึ้น ค่าเงินของประเทศ จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ ราคาทองคำลดลง ในทางตรงกันข้าม หากดอกเบี้ยนโยบาย ลดลง จะสะท้อนว่า เศรษฐกิจเริ่มแย่ ความเชื่อมั่นเริ่มลดลง ค่าเงินจะปรับตัวลดลงตาม ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น
2. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์ สหรัฐ เป็นสกุลเงิน ที่ถูกใช้เป็นสื่อกลาง ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ซึ่งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะมีความผกผันกับราคาทอง เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง จะส่งผลดี
กับราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ ที่สามารถรักษามูลค่าได้ กระแสเงินของ แต่ละประเทศจะไหลไป สู่ทองคำแทนเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ ทองคำมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าก็จะส่งผลต่อราคาทองคำ นักลงทุนจะหันมาซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐไว้แทน ราคาทองคำก็จะลดลง
3. อุปสงค์และอุปทาน (Demand & Supply)
อุปสงค์ (Demand) คือ ความต้องการใช้ทองคำ ซึ่งส่วนใหญ่ มาจากภาคอุตสาหกรรม ทำเครื่องประดับ ภาคการลงทุน และภาครัฐ ที่มีการนำทุนสำรอง ไปซื้อทองคำมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการ
กระจุกตัว อยู่ในพันธบัตรรัฐบาล ของสหรัฐ ถ้าหากมีความต้องการ ซื้อทองคำสูง จะส่งผล ให้ราคาทองสูงขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีความต้องการ ซื้อทองคำต่ำลง ราคาทองก็จะลดต่ำลงเช่นกัน ส่วนอุปทาน (Supply) นั้น คือ ความต้องกา รขายทองคำ ของผู้ผลิตทองคำ ของเหมืองทอง การขาย ของธนาคารกลาง ของประเทศต่าง ๆ และปริมาณทองคำเก่า ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ ถ้าหากมีความ ต้องการขายทองคำสูง ราคาทองจะลดต่ำลง แต่ถ้าหากมีความต้อง การขายต่ำราคาทอง ก็จะสูงขึ้น ตามหลักทาง เศรษฐศาสตร์
4. ราคาทองคำในต่างประเทศ (Gold Spot)
Gold Sport คือราคาอ้างอิงราคาทองคำทางอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดทองคำในต่างประเทศ เป็นราคาที่ไม่มีการส่งมอบทองคำกันจริง โดยจะมีการอ้างอิงราคาทั้งฝั่ง Bid (ราคารับซื้อ)
และ Ask (ราคาขายออก) ในการซื้อทองคำจากต่างประเทศนั้น ผู้ขายจะใช้ราคา Ask ในการอ้างอิง เมื่อขายกลับไปยังผู้ค้าทองคำต่างประเทศ จะใช้ราคา Bid ในการอ้างอิง ซึ่งการขึ้นลง ของราคาทอง
ในต่างประเทศจะสะท้อนการ ขึ้นลงของราคาทองคำในประเทศเช่นเดียวกัน
5. อัตราค่า Premium (ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการนำเข้า/ส่งออกทองคำ)
ค่า Premium ก็คือค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อที่นำเข้าหรือ ส่งออกทองคำ รวมถึงค่าขนส่ง ค่าความเสี่ยง ดอกเบี้ยธนาคาร ค่าประกันภัยต่างๆ ซึ่งถูกกำหนดมาโดยผู้ค้าทองในต่างประเทศ ซึ่งเรียกง่ายๆ
ว่าเป็นต้นทุนในการนำเข้า ทองคำจากต่างประเทศ เข้ามาขายผู้บริโภค ในการคำนวณจาก ราคาทองคำ กรณีการซื้อขายที่ต้อง ส่งมอบทองคำกันจริง ๆ จะนำราคา Gold Spot บวกค่า Premium ด้วย
สำหรับสภาวะปกติ ค่า Premium จะอยู่ที่ +1 ถึง 2 เหรียญต่อออนซ์ แต่ในสภาวะผิดปกติ ราคาทองคำในต่างประเทศ ปรับตัวขึ้นหรือลง อย่างมากและรวดเร็ว ในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้มีการปรับขึ้นลงค่า Premium จากผู้ค้าในต่างประเทศ อย่างรวดเร็ว และ รุนแรงมากเช่นกัน ก็จะกลับมา สะท้อนราคาทองในประเทศ
6. ราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันเป็นปัจจัย ที่ส่งผลต่อราคาสินค้าแทบทุกชนิด และเป็นตัว ที่ทำให้เกิดสภาวะเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อ กับราคาทองคำนั้น เคลื่อนไหว ในทิศทางเดียวกัน ราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์แบบเ ป็นไปในทิศทางเดียว กัน กับราคาทองคำ หากราคา น้ำมันเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อ ก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เงินเฟ้อก็จะลดลงส่งผลให้ราคาทองคำ ปรับตัวลดลงตาม
7. ความเสี่ยงทางการเมืองและระบบการเงิน
ในช่วงที่มีความขัดแย้ง ทางการเมือ งระหว่างประเทศ ภายในภูมิภาคหรือ ระหว่างภูมิภาคก็ตาม อาจนำไปสู่ความกังวลว่าจะเกิดภาวะสงคราม ค่าเงินถดถอย รวมถึงความกังวลอย่างสูงเ กี่ยวกับระบบการเงินโลก ราคาทองคำมีแนวโน้ม จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากทองคำ ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ ที่มั่นคงและการเก็บมูลค่า เงินไว้ในรูปแบบทองคำจะเป็นที่ปลอดภัยกว่า ซึ่งสิ่งนี้จะสะท้อน ความต้องการทองคำ ที่มากขึ้นและ จะทำให้ ราคาทองคำ สูงขึ้นตามไปด้วย
ปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา ล้วนมีผลต่อราคาทองคำ ขึ้นลงในตลาดโลก และตลาดในประเทศไทย นักลงทุนทองคำ จำเป็นต้องติดตามข้อมูลข่าวสาร ที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ ทั้งทางบวกและทางลบอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เลือกช่วงเวลา และโอกาส เข้าซื้อทองคำแท่ง มาเก็บไว้ในยามที่ราคาทองคำ อ่อนตัวลงถึงจุดต่ำกว่าราคา ที่ควรจะเป็น และเลือก ที่จะขายทำกำไร ในขณะที่ราคาทองสูง เกินกว่าราคาที่ควรจะเป็น ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โอกาส ที่จะทำกำไรได้มาก จากการลงทุนในทองคำ ก็มีความเป็นไปได้สูง ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็ต้องรักษาสภาพคล่อง ทางการเงิน ของผู้ลงทุน ให้สอดคล้อง กับระยะเวลาที่นำเงิน ไปลงทุน กับทองคำ ไม่ขาดสภาพคล่อง ถึงขนาดที่ ต้องขายทองคำออก ในสภาวะที่ยังขาดทุน
และท่านสามารถ ติดตามข้อมูล ข่าวสาร ต่าง ๆ ทั่วมุมโลก ข่าวสด รวดเร็วกว่า อีกทั้ง ข่าวฟุตบอล ตารางการแข่งขัน
ผลบอล และการ วิเคราะห์บอล // ทีเด็ดบอล ไฮไลบอล แทงบอล แทงบอลออนไลน์ และยังมี บาคาร่า รูเล็ต UFABET