
ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ ไขข้อสงสัย ศาลพระภูมิ จำเป็นต้องมีทุกบ้านหรือไม่ ถ้าจะตั้งศาลพระภูมิที่บ้าน ควรตั้งทิศไหนดี มาดู ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ
หลักการตั้งศาลพระภูมิ ตามหลัก ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ กัน
ไม่ว่าจะเป็น บ้าน หรืออาคาร ก็มักเห็นหลาย ๆ สถานที่ ตั้งศาลพระภูมิ เพื่อเป็นที่สถิตของเทพารักษ์ เทพที่ช่วยปกปักรักษา ผู้อยู่อาศัยให้อยู่เย็นเป็นสุข
ซึ่งอาจจะทำให้บางคนสงสัยว่า ศาลพระภูมิ จำเป็นต้องมีทุกบ้านหรือไม่ ตั้งศาลพระภูมิดีไหม แล้วถ้าอยากตั้งศาลพระภูมิที่บ้าน ควรตั้งทิศไหนดี
วันนี้ ALARM VARIETY เลยนำคำตอบเกี่ยวกับ ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ จาก ซินแสนัท จากเว็บไซต์ มาไขข้อข้องใจให้หายสงสัยกัน
ศาลพระภูมิ จำเป็นต้องมีทุกบ้านหรือไม่
ความเชื่อเรื่องการตั้งศาลพระภูมิ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลหรือแต่ละบ้าน ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับทางฮวงจุ้ยโดยตรง หากไม่มีความรู้ในการบูชา
ก็ไม่ควรสร้าง เพราะหากตั้งศาลพระภูมิแล้ว ควรมีการดูแล กราบไหว้ และถวายของ ตามหลักการไหว้ศาลพระภูมิที่ถูกต้องและประเพณีที่สืบทอดกันมา
ในขณะเดียวกันถ้าไม่ได้มีความเชื่อในเรื่องนี้หรือบูชาไม่เป็น ปล่อยให้ศาลพระภูมิรกร้าง ไม่มีการถวายของไหว้ เป็นแบบนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรนัก
ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ ตั้งทิศไหนดี
ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ โดยปกติแล้ว รูปทรงมาตรฐานของศาลพระภูมิทั่วไป จะหลังคาทรงจั่วปลายแหลม ซึ่งจุดนี้เป็นคุณลักษณะของธาตุไฟ ตามหลัก 5 ธาตุ อันประกอบด้วย
ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุทอง ดังนั้น ในการตั้งศาลพระภูมิ จึงไม่ควรอยู่ในทิศที่พลังธาตุไฟไปพิฆาตธาตุประจำทิศที่เป็นธาตุทอง นั่นก็คือทิศตะวันตก
หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งหลักการพิจารณาว่า อยู่ในทิศดังกล่าวหรือไม่ ให้ดูจากศูนย์กลางบ้านเป็นหลัก แล้วใช้เข็มทิศหรือแอปพลิเคชันในมือถือช่วยหาทิศ ตัวอย่างเช่น
จากรูปการตั้งศาลพระภูมิ ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ แทนที่จะวางตำแหน่ง ในทิศตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นธาตุทอง (โดนธาตุไฟพิฆาต)
ก็ถือว่าไม่ผิดหลักการของฮวงจุ้ย
แต่ถ้าตั้งศาลพระภูมิ ในตำแหน่งทิศธาตุทอง (ทิศตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงเหนือ) ไปแล้ว ให้ใช้ ธาตุตัวกลางระหว่างธาตุไฟกับธาตุทอง ซึ่งก็คือ
ธาตุดิน มาแก้ ก็จะทำให้ธาตุไฟ (จากรูปทรงแหลม ๆ ของศาล) ส่งเสริมธาตุดิน แล้วไปส่งเสริมธาตุทอง เพียงเท่านี้ก็จะไม่พิฆาตกันแล้ว
สำหรับการใช้ธาตุดิน นั่นก็คือ สิ่งของที่มีลักษณ ะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะทั้งหมดก็ได้ ดังต่อไปนี้
– ของที่มีรูปร่างหรือรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยม
– สีสันในโทนสีน้ำตาล ครีม หรือเหลือง
– ทำจากวัสดุดินเผา เซรามิก หิน จำนวน 8 ชิ้น
เพียงเท่านี้ก็ช่วยแก้ไขฮวงจุ้ยได้แล้ว และตอนนี้ก็มีไฟ LED สีต่าง ๆ อาจใช้ไฟสีเหลือง มาติดในบริเวณนั้น โดยเดินสาย LED ให้เป็นรูปร่างสี่เหลี่ยม เป็นต้น
สำหรับการหันทิศ ของศาลพระภูมิ ว่าควรจะหันหน้า ไปทางไหนหรือควรจะตั้งศาลตายาย อยู่ทางขวาหรือซ้ายดี ต้องปรึกษาผู้รู้ในทางพราหมณ์
หรือทำตามที่คนอื่น บอกให้ทำ แบบนี้จะไม่เกิดประโยชน์
การตั้งศาลพระภูมิที่บ้าน เป็นความเชื่อส่วนบุคคล จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่หากตั้งศาลพระภูมิแล้ว ควรมีการดูแล กราบไหว้บูชาอย่างถูกต้อง และ
ความเชื่อเรื่องศาลพระภูมิ ดูฤกษ์และวิธีตั้งศาลพระภูมิอย่างไรให้เป็นมงคล
การตั้งศาลพระภูมิเป็นความเชื่อของคนไทยที่มีมานาน ความเชื่อนี้เกี่ยวกับ “พระภูมิ” อันหมายถึงวิญญาณ หรือสัมภเวสีที่ดูแลรักษาพื้นดิน
ที่ผู้อยู่อาศัยมาปลูกบ้าน สร้างอาคาร สร้างสำนักงาน โดยต้องดูฤกษ์ผูกดวง และมีพิธีกรรมตั้งศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติ แต่ไม่ได้เป็นข้อกำหนดว่า
ต้องทำทุกบ้าน พิธีกรรมและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการตั้งศาลพระภูมิ มีดังนี้
ความเชื่อ ฮวงจุ้ยศาลพระภูมิ
ตั้งแต่อดีต คนไทยมีความเชื่อ ที่ผูกกับการปลูกบ้าน เมื่อสร้างบ้านเสร็จ ต้องเชิญพราหมณ์หรือผู้ ที่มีความรู้ด้านการตั้งศาล มาเชิญเทพให้มาสถิตที่เจว็ด
ในศาลพระภูมิ เพื่อขอพรบันดาล ให้เกิดโชคลาภและความสุขแก่ผู้อยู่อาศัย โดยตำนานของศาลพระภูมิ เล่าถึงกษัตริย์ท้าวทศราช มีมเหสีชื่อพระนางสันทาทุกข์
ครอบครองกรุงพลี มีโอรส 9 พระองค์ แต่ละพระองค์มีความสามารถ จึงส่งไปรักษาถิ่นฐานต่างๆ ได้แก่
1. พระ ชัยมงคล ถูกส่งไปรักษาบ้านเรือน ร้านค้า โรงหอค้าต่างๆ
2. พระนคร ราช ถูกส่งไปรักษาประตูเมือง ป้อม และค่าย
3. พระเท เพน ถูกส่งไปรักษาคอกสัตว์ โรงช้างม้า วัวควาย
4. พระ ชัยศพณ์ ถูกส่งไปรักษายุ้งฉางข้าว เสบียงคลัง
5. พระคน ธรรพ์ ถูกส่งไปรักษาเรือนหอบ่าวสาว
6. พระ ธรรมโหรา ถูกส่งไปรักษาไร่ นา ทุ่ง ลาน ป่าเขา
7. พระ เทวเถร ถูกส่งไปรักษาอาราม วัด วิหาร ปูชนียสถานต่างๆ
8. พระธรร มิกราช ถูกส่งไปรักษาอุทยาน และสวนผลไม้
9. พระ ทาษธารา ถูกส่งไปรักษา ห้วย หนอง คลอง บึง และแม่น้ำ
การดูฤกษ์ตั้งศาลพระภูมินั้น พราหมณ์หรือผู้ตั้งศาล จะดูฤกษ์ยาม และทิศทางตั้งศาล บนพื้นที่ดินของผู้อยู่อาศัย ดูทิศที่ควรหันหน้าศาล
โดยฤกษ์ในการทำพิธี
ยกศาลพระภูมิ มี 4 ฤกษ์ ดังนี้
1. ภูมิปาโลฤกษ์ เป็นฤกษ์ของพระภูมิผู้รักษาแผ่นดิน คือฤกษ์ที่ 4, 13 และ 22
2. เทวีฤกษ์ เป็นฤกษ์นางพญา เสน่ห์นิยม คือฤกษ์ที่ 6, 15 และ 24
3. มหัทธโนฤกษ์ เป็นฤกษ์คหบดีผู้มั่งคั่ง คือฤกษ์ที่ 2, 11, 20
4. ราชาฤกษ์ เป็นฤกษ์ผู้ยิ่งใหญ่สูงส่ง คือฤกษ์ที่ 8, 17 และ 26
ฤกษ์ห้ามตั้งศาลพระภูมิ มีดังนี้
1 – วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ของเดือนที่1
2 – วันพุธ และวันศุกร์ ของเดือนที่2
3 – วันอังคาร ของเดือนที่3
4 – วันจันทร์ ของเดือนที่3
5 – วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ของเดือนที่5
6 – วันพุธ และวันศุกร์ ของเดือนที่6
7 – วันอังคาร ของเดือนที่7
8 – วันจันทร์ ของเดือนที่8
9 – วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ของเดือนที่9
10 – วันพุธ และวันศุกร์ ของเดือนที่10
11 – วันอังคาร ของเดือนที่11
12 – วันจันทร์ ของเดือนที่12
การทำพิธีตั้งศาลพระภูมิใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่รวมการเตรียมการที่ใช้เวลาล่วงหน้า 1 วัน หลังจากได้ฤกษ์แล้วก็ต้องขุดหลุมเตรียมลงเสา
และ ทำพิธีอัญเชิญเจว็ดขึ้นศาล ดังนี้
1. ดูฤกษ์ยาม
พราหมณ์หรือผู้ตั้งศาลจะดูฤกษ์ยาม และวันตั้งศาลให้ โดยในแต่ละเดือนมีฤกษ์และวันห้ามตั้งศาลที่ไม่เหมือนกัน
2. ขุดหลุมเตรียมเสา
ก่อนตั้งศาลต้องขุดหลุมเตรียมศาล โดยผู้ทำพิธีจะแจ้งว่าให้ขุดตรงไหน ลงฐานศาลพระภูมิทิศไหน และตรวจสอบความเรียบร้อย ทั้งหมดในช่วงเย็น
เพื่อให้วันต่อมา ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิได้ตามฤกษ์
3. ตั้งเครื่องสังเวย
เตรียมเครื่องสังเวย ตั้งโต๊ะบูชาตามความเชื่อ โดยปูผ้าขาว ตั้งเครื่องสังเวย เตรียมธูปเทียน ผ้าแพร 3 สี สำหรับตาดเสา
4. เชิญเจว็ดขึ้นศาล
เมื่อถึงฤกษ์เทปูน เชิญตัวแทนพระภูมิ เรียกว่า “เจว็ด” เป็นรูปเทวดายืนด้วยไม้ อยู่ในรูปพัทธสีมา อันเป็นตัวแทนของพระภูมิ เชิญเจว็ดขึ้นศาล ไหว้เทวดา
และออกชื่อพระภูมิ ผู้ตั้งศาลประนมมือกล่าวคาถา
และท่านสามารถ ติดตามข้อมูล ข่าวสาร ต่าง ๆ ทั่วมุมโลก ข่าวสด รวดเร็วกว่า อีกทั้ง ข่าวฟุตบอล ตารางการแข่งขัน
ผลบอล และการ วิเคราะห์บอล // ทีเด็ดบอล ไฮไลบอล แทงบอล แทงบอลออนไลน์ และยังมี บาคาร่า รูเล็ต ufabet