
21 มิถุนายน พ.ศ. 2189 วันเกิด ก็อตต์ฟรีด ไลบ์นิซ (Gottfried Wilhelm von Leibniz) นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ และ นักปรัชญา สำนักเหตุผลนิยมชาวเยอรมัน เชื้อสายเซิร์บ เกิดที่เมืองไลป์ซิจ ประเทศเยอรมนี
เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ตั้งแต่อายุ 15 ปี จบปริญญาตรี ด้านปรัชญาและตรรกศาสตร์ตอนอายุ 17 ปี จากนั้น เรียนกฎหมาย และ เริ่มเขียนบทความ เกี่ยวกับกฎหมาย เขา เป็นผู้ประดิษฐ์ เครื่องคิดเลข ที่ สามารถบวก ลบ คูณ หาร
และ ถอดกรณฑ์ได้ เขา ตีพิมพ์ผลงานเล่มแรกในปี 2227 ชื่อ “Nova Methodus Pro Maximis et Minimis” (New Method of the Greatest and the Least) ไลบ์นิซเป็นผู้คิดค้น แคลคูลัส ร่วมกับ ไอแซก นิวตัน
แต่ ต่างคนก็ต่างเถียงกัน ว่า ใครเป็นคนพบก่อน จนกระทั่ง ทั้งสองตายจากกัน ไลบ์นิซเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2259
กอทฟริด วิลเฮล์ม ไลบ์นิส 21 มิถุนายน พ.ศ. 2189
กอทท์ฟรีด วิลเฮล์ม ฟอน ไลบ์นิซ (Gottfried Wilhelm von Leibniz) (1 กรกฎาคม ค.ศ. 1646 (พ.ศ. 2189) ในเมืองไลป์ซิก ประเทศเยอรมนี – 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1716 (พ.ศ. 2259) เป็นนักปรัชญา, นักวิทยาศาสตร์,
นักคณิตศาสตร์, นักการทูต, บรรณารักษ์ และ นักกฎหมาย ชาวเยอรมันเชื้อสายเซิฟ เขาเป็นคนที่เริ่มใช้คำว่า “ฟังก์ชัน” สำหรับอธิบายปริมาณที่เกี่ยวกับเส้นโค้ง เช่น ความชันของเส้นโค้ง หรือจุดบางจุดของเส้นโค้งดังกล่าว
ไลบ์นิซและนิวตันได้รับการยกย่องร่วมกันว่าเป็นผู้เริ่มพัฒนาแคลคูลัส โดยเฉพา ะส่วนของไลบ์นิซ ใน การพัฒนาปริพันธ์ และ กฎผลคูณ ไลบ์นิซถึงแก่กรรมในปี 1716 ที่ฮาโนเวอร์
ผลงานที่สำคัญ
- Discours de metaphysique
- Systeme nouveau de la nature
- Principes de la nature et de la grace
- Monadologie
พื้นฐานทางความคิด
พยายามประนีประนอมความความเห็นที่ชัดแย้งกัน ในศาสนาและวิทยาศาสตร์ ปรับปรุงความคิดสำคัญในสมัยใหม่ เขาเป็นนักปรัชญาในกลุ่มเหตุผลนิยม เช่นเดียวกับเดส์การ์สต์และสปิโนซา
- ไลบ์นิซไม่พอใจกับวิธีการเรื่องสาร เขาเห็นว่าคำอธิบายของนักปรัชญาทั้งสองทำให้เราเข้าใจเรื่อง ธรรมชาติของมนุษย์ เสรีภาพ และธรรมชาติของพระเจ้าผิดไปจากความเป็นจริง
- ไลบ์นิซ ความคิดเกี่ยวกับสารยังไม่เพียงพอ เพราะความคิดนี้ไม่สามารถจะแยกความแตกต่างระหว่างพระเจ้า มนุษย์ และธรรมชาติได้อย่างชัด ไลบ์นิซต้องการจะแยกเรื่องนี้ให้ชัด
- ไลบ์นิซเห็นว่า เป็นวิธีการที่ใช้ไม่ได้ผล จึงคิดหาวิธีใหม่ โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ความคิดออกเป็นหน่วยย่อยที่สุด เรียกว่า โมนาด (monad) แล้วเอาหน่วยย่อยเหล่านี้มาสัมพันธ์กันเป็นระบบ จนประกอบขึ้นเป็นจักรวาลที่กลมกลืน
อภิปรัชญา
ความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่เป็นพลวัต (Dynamic)
ไลบ์นิซ คิดว่าสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นจากการรวมกันของหน่วยพื้นฐานบางอย่าง หน่วยพื้นฐานเหล่านี้เป็นสารเชิงเดี่ยว และไลบ์นิซเรียกมันว่า โมนาด สิ่งทั้งหลายจึงเกิดขึ้นจากโมนาดหลายๆ โมนาดมาประกอบกันเข้านั้นเอง
สำหรับไลบ์นิซ เห็นว่า สารเชิงเดี่ยวที่แท้จริงก็คือโมนาด และดมนาดคือ อะตอมที่แท้ของธรรมชาติเป็นองค์ประกอบของสิ่งต่างๆ โมนาดเป็นสิ่งที่มีพลังหรือแรงซึ่งเป็นสารัตถะสำคัญของสารที่ประกอบกันขึ้นเป็นสิ่งของต่างๆ
ความคิดเกี่ยวกับพลัง ไลบ์นิซเห็นว่าสิ่งที่คงที่คือ พลังงานจล การเคลื่อนไหวไม่ใช่การเปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้น ที่สำคัญคือการเคลื่อนไหวเป็นพลผลิตของพลัง ความคิดเกี่ยวกับพลังเช่นนี้คือพื้นฐานทางฟิสิกส์และอภิปรัชญาของไลบ์นิซ ความคิดของไลบ์นิซที่ว่าธรรมชาติมีลักษณะเป็นพลวัต ตั้งอยู่บนพื้นฐานของพลังงาน กล่าวสั้นๆ ว่าเป็นความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่เป็นแบบกายภาพ มากกว่าเป็นแบบเรขาคณิต ไลบ์นิซได้ก้าวมาถึงความคิดใหม่เกี่ยวกับสารที่มีพลัง อันเป็นตัวผลักดันให้เกิดการเคลื่อนไหวในธรรมชาติ
โมนาด (Monad)
อภิปรัชญา ของ ไลบ์นิซ เป็นแบบจิตนิยม ความจริงสูงสุด มี สภาพเป็นจิต ไลบ์นิซเรียกว่า โมนาด โลก ประกอบด้วยโมนาดจำนวนอนันต์ โมนาด ประกอบกันเข้าเป็นสิ่งต่างๆ ที่ ปรากฏในโลก โมนาดเป็นสารขั้นพื้นฐานหรือ
สารขั้นต้น เป็นสาร ที่ ไม่มีส่วนประกอบอื่นใด คือเป็นสารเชิงเดี่ยว เป็นสิ่งที่แบ่งแยกไม่ได้ ไม่กินที่ ไม่มีขนาด ไม่ดับสลายหรือสูญหาย โมนาดเกิดขึ้นสิ้นสุดลงทั้งหมดในเวลาเดียวกัน คือโมนาดเกิดขึ้นจากการสร้าง
และ สิ้นสุดลงด้วยการทำลาย โมนาด มี คุณสมบัติมีความแตกต่างกันมีระดับ คือ มีโมนาดขั้นต่ำสุดจนถึง โมนาดขั้นสูงสุดคือพระเจ้า เรียกว่า โมนาดแห่งโมนาดหรือโมนาดสูงสุด
โมนาดคือ พลัง ทุกโมนาดแสดงออกหรือสะท้อนภาพของจักวาลออกมาจากตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ อภิปรัชญาของไลบ์นิซเป็นแบบพหุนิยม เชื่อว่าสิ่งทั้งหลายนั้นมีอยู่จริงๆ แม้ว่าไม่มีตัวผู้รับรู้มัน โมนาดแต่ละหน่วย
มีการรับรู้ในระดับที่ต่างกัน การรับรู้ระดับต่ำคือ ระดับสัญชาตญาณ คือ รู้โดยปราศจากความสำนึก ไปจนถึง ระดับสูงคือระดับวิสัญชาตญาณ คือสำนึก การรับรู้ของโมนาดไม่ใช่การรับรู้สิ่งภายนอก เป็นการรับรู้ตัวเอง
ความกลมกลืนที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า
โมนาดทุกหน่วยมีความเป็นเอกเทศ มีวิวัฒนาการหรือเปลี่ยนแปลงภายในตัวเอง ปัญหาก็คือ โมนาดจะสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อไลบ์นิซอธิบาย ไลบ์นิซอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกัน
เหมือนกับว่า ได้รับอิทธิพลต่อกันนั้น มัน เกิดขึ้นได้เพราะมันถูกกำหนดไว้ แต่เดิม เป็น ความกลมกลืนที่พระเจ้า กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า ทุกสิ่ง เกิดขึ้นมาจากความลึกของโมนาดแต่ละโมนาด มันจะก่อรูปขึ้นเป็นโลก
ผู้ที่กำหนดระเบียบของโมนาดได้ก็คือพระเจ้า ซึ่ง เป็นผู้วางแผนสร้างโมนาด แม้ แต่ละโมนาดจะโดดเดี่ยว แต่มันก็ถูกจัดให้เป็นเอกภาพ
ปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างจิตกับร่างกายนั้น ไลบ์นิซอ ธิบายว่าพระเจ้าสร้างโมนาดที่เป็นจิตหรือวิญญาณ และ สร้างโมนาดที่เป็นร่างกาย พระองค์ได้กำหนดไว้แล้ว ให้ทั้งสองสิ่งนี้โดย ไม่ มีความสัมพันธ์ภายในต่อกันเลย
จิตกับร่างกายไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อกันแต่อย่างใด
ความคิดเกี่ยวกับบทบาทของพระเจ้า
คำตอบจากไลบ์นิซ พระเจ้า ทำให้การพัฒนาของโมนาด ที่ รู้จักคิดของเราเกิดขึ้น พร้อมกับสิ่งต่างๆ พระองค์กำหนด ให้เกิดความตรงกัน ระหว่างความคิดของเรา กับ ความจริงของสิ่งต่างๆ คือ พระเจ้ากำหนดให้ความคิดของเรา
ตรงกับความเป็นจริง จึงกล่าวได้ว่า เรารู้สิ่งต่างๆ โดยผ่านพระเจ้า พระเจ้าคือผู้ที่ทำ ให้ ความมีอยู่ของโมนาด เป็นสิ่งเป็นไปได้ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ว่า เป็นพลังในตัวเองและด้วยตัวเอง ไลบ์นิซจึงจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าพระเจ้านั้น
เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง
ญาณวิทยา
โมนาดทุกโมนาดมีความสามารถในการรับรู้ การรับรู้ของโมนาด เป็น เรื่องภายในโมนาดเอง ความคิดติดตัว เป็นความคิดที่มีความสำนึก ในตัวเอง ซึ่งไลบ์นิซเรียกว่า วิสัญชาตญาณ เป็นระดับ ที่ คิดอย่างมีเหตุผล การคิดอย่างมี
เหตุผล ทำให้มนุษย์ความจริงที่เป็นสากลและเป็นความจริงโดยจำเป็น
และท่านสามารถ ติดตามข้อมูล ข่าวสาร ต่าง ๆ ทั่วมุมโลก ข่าวสด รวดเร็วกว่า อีกทั้ง ข่าวฟุตบอล ตารางการแข่งขัน ข่าวกีฬาอัปเดต
ผลบอล และการ วิเคราะห์บอล // ทีเด็ดบอล ไฮไลบอล แทงบอล แทงบอลออนไลน์ และยังมี บาคาร่า รูเล็ต UFABET